หมากรุก – หมากรบ

ในกระบวนกีฬาในร่มแล้ว หมากรุกเป็นกีฬาในร่ม ประเภทหนึ่ง ที่จำเป็นต้องใช้สมองเพื่อขบคิดการต่อสู้ ของตัวหมาก ในกระดานเป็นอย่างมาก ต้องรู้จัก หลักการรับ และ หลักการรุก อย่างพร้อมมูล จนมีคำ กล่าวว่า ผู้ที่ต้องการจะ ให้สมองของตน แจ่มใส และรู้จักมีความอดทนแล้ว ต้อง เล่นหมากรุกไทย จึงจะดีที่สุด

คำพูดดังกล่าวข้างต้นมีความเป็นจริงอยู่ไม่น้อย เพราะ การเล่น หมากรุกไทยนั้น ถ้าหากว่าไม่มีการพนันขันต่อ ระหว่างบุคคลแล้ว จะเห็นได้ว่า บางแห่งจะมีคนหลายคน ช่วยกันรุมคน ๆ เดียว ดังนั้น ถ้าคนแต่ผู้เดียวจำเป็น จะ ต้องรองรับความสามารถของหลาย ต่อหลายคนเช่นนี้ นอกจากจะต้องใช้สมาธิในการเล่นหมากรุก ในกระดาน แล้ว บางครั้งก็จะถูกเพื่อนเยาะเย้ยเอาบ้างเมื่อเดินผิด หรือ ในบางครั้งถ้าเล่นหมากยืดหยุ่น ประเภทจับตัวแล้ว ไม่ยอม เดิน ไปตามทางของตัวหมากรุก เปลี่ยนเล่นตัวอื่น แทน เมื่อเห็น ว่าตนจะเสียเปรียบ แก่อีกฝ่ายหนึ่ง และบางครั้งก็ถูก โห่ฮาป่าเอา บ้างก็มีนี่แหละ เป็นข้อสนับสนุน ที่ว่า การเล่นหมากรุกไทย ทำให้คนเกิดความอดทนขึ้น และหมากรุก ไทยก็มีส่วนช่วย ในเรื่องนี้ได้เป็นอย่างดี

ผู้ที่เล่น หมากรุกนั้น ไม่ใช่หมายความเดินได้ถูกต้องตามแนวทางของหมากรุกแต่ละตัวเท่านั้น ต้องมีการ เตรียม พร้อม เผื่อว่าถูกอีกฝ่ายหนึ่งเพลี่ยงพล้ำก็รีบหาช่องทางเอาเปรียบฝ่ายตรงข้ามให้ จงได้เพื่อชัยชนะ ในตอนปลายกระดาน เป็น ประการสำคัญ

หมากรุกไทยจึงเปรียบเสมือน การรบในสนามรบ ด้วยประการฉะนี้

        จาก การค้นประวัติความเป็นมาของหมากรุก คนส่วนใหญ่จะกล่าวว่า ไทยเราได้แบบอย่างมาจากอินเดีย แล้วจึง ดัดแปลงมา เป็นหมากรุกไทย แต่ก็ไม่ปรากฎว่า การเล่นหมากรุกของอินเดียจะมีปรากฎ และเป็นที่ เลื่องลือของ คนทั่วไป แต่ก็อาจจะ มีความจริงอยู่บ้าง เพราะอารยธรรมส่วนใหญ่ของไทย ได้มาจากอินเดีย เป็นเค้ามูล ดังนั้น การที่จะกล่าวว่า หมากรุกไทย ได้แบบอย่างมาจากอินเดีย ก็อาจจะมีเค้ามูล เป็นจริงอยู่บ้าง แต่คนไทยก็ได้ดัด แปลงเอามาใช้เฉพาะ และเหมาะสมกับ ลักษณะของคนไทยหลายประการ กล่าวคือ

๑. แม่ทัพของไทยเป็นนักรบที่แกล้วกล้าสามารถ และมักจะเป็นผู้นำในการรบอยู่เสมอ ถ้าพิจารณาตามสภาพ ของขุนใน หมากรุกไทยแล้ว จะเห็นได้ว่า ขุนของหมากรุกไทยต้องเดินบงการรบอยู่ตลอดทั้งกระดาน ไม่เหมือน กับขุนในหมากรุก ของชาติอื่น ๆ เพราะในกระบวนการรบของหมากรุกชาติอื่นนั้น เช่น หมากรุกจีน ขุนมีตาเดิน ได้เพียง ๙ ตา ในกรอบเท่านั้น รวมทั้งหมากรุกฝรั่งด้วย

๒. คนไทยนับถือว่าขุน หรือองค์พระมหากษัตริย์จอมทัพนั้นเป็นเทพยดา ดังนั้นจีงต้องมีองครักษ์ประจำอยู่เสมอ และจะมี องครักษ์พิเศษ ซึ่งในหมากรุกไทยเรียกว่า “เม็ด” เพียงคนเดียวเท่านั้น ส่วนในหมากรุกจีนต้องมีองครักษ์ ถึง ๒ คน แสดง ให้เห็นว่ามีความฟุ้งเฟ้อมากกว่าจอมทัพของไทย

๓. ตัวหมากรุกของไทยทุกตัวสามารถเดินได้ตลอดทั้งกระดาน ดังนั้นการวางแผนการรบจึงต้องวางแผนการ ตลอดทั่ว ทั้งกระดาน และทุกตัวหมาก มิฉะนั้นหากว่าเกิดการผิดพลาดขึ้นแล้ว ก็จะทำให้พ่ายแพ้แก่ฝ่ายตรงข้าม ได้ง่ายที่สุด

๔. ขุนของหมากรุกไทยไม่ต้องระวังว่า จะอยู่ตรงกันกับขุนของอีกฝ่ายหนึ่ง เพราะขุนของหมากรุกจีนสามารถ ที่จะกั้นแนว ทางเดินของหมากรุกฝ่ายตรงข้ามได้ ดังนั้นถ้าหากว่านักเดินหมากรุกผู้มีความสามารถ ในการเดิน หมากรุกจีนแล้ว เพียง เอาขุนตั้งสกัดไว้ อีกฝ่ายหนึงก็จะหมดแนวทางเดินไปอีกฝ่ายหนึ่ง เหลือตาเดินเป็นสามตา เท่านั้น โดยที่อีกฝ่ายหนึ่ง ไม่มีตัวปิดบังเบื้องหน้าเอาไว้

๕. หมากรุกของไทยทุกตัวหมากจะต้องเดินในช่อง ไม่ได้เดินอยู่บนมุมเช่นเดียวกับหมากรุกจีน

ใส่ความเห็น